3M Hairtransplant Hairmaster

VITADAY x Masterpiece เปิดตัวเครื่องดื่มวิตามินดูแลเส้นผมไบโอติน + ซิงค์

vitaday x masterpiece

‘MASTER’ จับมือ ‘วิตอะเดย์’ เปิดตัวเครื่องดื่มวิตามินดูแลเส้นผมไบโอติน + ซิงค์ by VITADAY x Masterpiece ครั้งแรกในไทย ร่วมคิดค้นสูตรโดยทีมแพทย์ชำนาญการด้านเส้นผม จาก 3M Hair Transplant By Masterpiece Hospital เข้าสู่ตลาด Functional Drink ชูจุดเด่นเป็นเครื่องดื่มวิตามินอุดมด้วยสารสกัด 6 ชนิด อาทิ ไบโอติน, ซิงค์, แอปเปิลแอนนูร์กา ตอบโจทย์ผู้มีปัญหาเส้นผม ช่วยฟื้นฟูและบำรุง มีจำหน่ายแล้ววันนี้ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั่วประเทศ และแอปพลิเคชัน 7-Delivery พร้อมวางแผนลุยโปรโมทผ่านออนไลน์ และเพิ่มช่องทางจำหน่ายสู่ห้างค้าปลีกในอนาคต

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล Group CEO MASTER เปิดเผยถึงแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ Group MASTER เน้นการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic โดยอีกหนึ่งกลยุทธ์ใช้ร่วมพันธมิตรผ่านการ Collaboration หรือ X–Strategy เพื่อสร้างแบรนด์ให้เติบโตแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมต่อย
อดกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ไปพร้อมกัน

“การขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER ทำให้สามารถเพิ่มรายได้ พร้อมเปิดโอกาสการเติบโตในตลาดศัลยกรรมความงาม และ Functional Drink พัฒนาเครื่องดื่มวิตามิน โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีปัญหาเรื่องเส้นผมโดยตรง ด้วยศักยภาพของทั้ง 2 ธุรกิจ แบบ Win–Win ทำให้เพิ่มฐานลูกค้าและเปิดประสบการณ์ใหม่ในรูปแบบวิตามินดูแลเส้นผมพร้อมดื่มครั้งแรกในไทย” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว

เครื่องดื่มบำรุงเส้นผม

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญของ MASTER โดยล่าสุด บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ของอุตสาหกรรมด้านความงามอันดับต้นของประเทศไทยและเอเชีย ร่วมมือครั้งสำคัญ กับ บริษัท เจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ จำกัด (General Beverage) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มวิตามิน ภายใต้แบรนด์ VITADAY (วิตอะเดย์) ซึ่งมีความชำนาญในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มวิตามินครบวงจร และวันนี้พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Functional Drink สำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผมได้รู้จัก “เครื่องดื่มวิตามินดูแลเส้นผมไบโอติน + ซิงค์ by VITADAY x Masterpiece”

สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เครื่องดื่มวิตามินดูแลเส้นผม ไบโอติน + ซิงค์ by VITADAY x Masterpiece เป็นการคิดค้นสูตรโดยทีมแพทย์ชำนาญการด้านเส้นผมโรงพยาบาลมมาสเตอร์พีช จากศูนย์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ 3M Hair Transplant by Masterpiece Hospital ผสานจุดแข็งของVITADAY ที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเครื่องดื่มวิตามินมานานกว่า 13 ปี การันตียอดขายเครื่องดื่มวิตามินอันดับ 1 ด้วยความพิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรสารสกัดและคุณประโยชน์เข้มข้น พร้อมออกแบบรสชาติที่เข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันผู้บริโภคมีความเชื่อมากขึ้นว่า สารอาหารที่รับประทานไม่เพียงพอ โดยผู้บริโภคไม่เพียงต้องการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่ผู้บริโภคยังต้องการสารอาหารที่เข้ามาเสริมในเรื่องเส้นผมด้วยเช่นกัน จากผลการสำรวจพบว่าคนไทยประสบปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมค่อนข้างมาก สาเหตุหลักเกิดจากกรรมพันธุ์ ช่วงอายุ รวมถึงมลภาวะที่ส่งผลต่อเส้นผม

ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่าการเกิด Collaboration ร่วมกันในครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดของตลาดศัลยกรรมความงามและตลาดวิตามินเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อผนึกความแข็งแกร่งของแบรนด์ทั้ง 2 บริษัท ผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ Functional Drink เครื่องดื่มวิตามินดูแลเส้นผมไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย โดย MASTER พร้อมให้การสนับสนุน VITADAY ในทุกๆ ด้าน

อาหารเสริมดูแลเส้นผม

นายพงศกร พงษ์ศักดิ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ จำกัด (General Beverage) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มวิตามิน ภายใต้แบรนด์ VITADAY กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ MASTER เห็นโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยบริษัทและโรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มองเห็นถึงศักยภาพ และความพร้อมของโรงพยาบาลที่เป็นศูนย์รวมบริการศัลยกรรมความงามแบบครบวงจร

อีกทั้งยังมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญการด้านศัลยกรรมในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ที่มีชื่อว่า 3M Hair Transplant by Masterpiece ประกอบกับมีบุคลากรที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการทำหัตถการ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ที่มาใช้บริการจำนวนมาก

ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันการแข่งขันในตลาด Functional Drink เครื่องดื่มวิตามินมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาสนใจดูแลตัวเองมากขึ้น โดยจากเทรนด์ตลาดเครื่องดื่มอาหารเสริม กลุ่มเส้นผมเป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มผิวพรรณ ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นผู้ที่มีปัญหาเส้นผมค่อนข้างมาก ตั้งแต่วัยรุ่น อายุ 15-20 ปี  ไปจนถึงวัยกลางคนอายุ 21-40 ปี ซึ่งแต่ละกลุ่มมีปัญหาเส้นผมแตกต่างกัน

“VITADAY เล็งเห็นถึงปัญหาของผู้บริโภคหรือ Pain Point โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีความกังวลเรื่องเส้นผม เช่น คนที่มีปัญหาศีรษะล้าน ผมร่วง ผมบาง จะด้วยกรรมพันธุ์ หรือธรรมชาติของผู้หญิงผู้ชาย ผมจะร่วงและบางลงตามอายุที่มากขึ้นอยู่แล้ว กับอีกกลุ่มคือ คนที่ต้องการให้ภาพลักษณ์ตัวเองดูดีขึ้น ปัญหานี้มีตั้งแต่ นักเรียน นักศึกษา ที่ชอบทำสีแล้วผมเสีย อยากผมหนาและยาวไว จนถึงวัย First Jobber และวัยทำงานที่อายุมากกว่า 30 ปี ดังนั้น VITADAY จึงร่วมพัฒนาเครื่องดื่มเสริมอาหารเกี่ยวกับเส้นผมที่ดื่มง่าย รสชาติอร่อย และยังช่วยแก้ปัญหาเส้นผมของคนเหล่านี้ด้วย ที่สำคัญถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ผ่านมายังไม่มีเครื่องดื่มวิตามินแบรนด์ใดผลิตอาหารเสริมบำรุงเส้นผมเป็นเครื่องดื่มเลย” นายพงศกร กล่าว VITADAY เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครื่องดื่มวิตามิน ด้วยการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภค หากต้องการดื่มเครื่องดื่มวิตามินต้องนึกถึง VITADAY วางกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ทั้งในสื่อออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกเพศ ทุกวัย พร้อมสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและเลือกเครื่องดื่มวิตามินประจำบ้านช่วยบำรุงสุขภาพกายและดูแลเส้นผมให้ทุกคนในครอบครัว

เครื่องดื่มดูแลเส้นผม

โดย “เครื่องดื่มวิตามินดูแลเส้นผมไบโอติน+ ซิงค์ by VITADAY x Masterpiece”  ใน 1 ขวด มีรสชาติหวานกลมกล่อมประกอบด้วยสารสกัด 6 ชนิด มีความเข้มข้นถึง 800 มิลลิกรัม ที่เพียงพอสำหรับความต้องการต่อ 1 วัน ได้แก่ ไบโอติน, ซิงค์, สารสกัดจากหญ้าหางม้า, สารสกัดจากเมล็ดข้าวฟ่าง, แอล-เมไธโอนีน, และแอปเปิลแอนนูร์กาหรือราชินีแห่งแอปเปิล ซึ่งมีงานวิจัยรับรองจาก National Library of Medicine ในการกระตุ้นการเกิดผมใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มการเกิดใหม่ของเส้นผม คืนความแข็งแรงของเส้นผม ลดการหลุดร่วงของเส้นผมและชะลอผมหงอกก่อนวัย

สำหรับแผนการโปรโมทจากการสำรวจที่ผ่านมา พบว่า ปัจจัยที่ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าเกี่ยวกับเส้นผม จะเน้นเรื่องผลลัพธ์การเห็นผล โดยจะเริ่มจากส่ง “เครื่องดื่มวิตามินดูแลเส้นผมไบโอติน + ซิงค์ by VITADAY x Masterpiece”  ผ่าน  Influencer และ User ที่มีปัญหาเส้นผมได้ทดลองดื่ม พร้อมแชร์ประสบการณ์และผลลัพธ์ ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยในช่วงแรกเน้นโปรโมตออนไลน์เป็นหลัก และในอนาคตมีแผนกระจายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ เช่น Makro, Lawson, BigC และ Lotus เป็นต้น

ทั้งนี้ “เครื่องดื่มวิตามินดูแลเส้นผม ไบโอติน + ซิงค์ by VITADAY x Masterpiece” บรรจุในขวดพร้อมดื่มขนาด 120 มิลลิลิตร ราคาเพียงขวดละ 35 บาท มีจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศไทย และแอปพลิเคชัน 7-Delivery ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลต่างๆ ได้ทาง Facebook Fanpage: Vitaday และ 3M Hair Transplant ปลูกผมถาวร by Masterpiece Hospital

Read More

รัก ‘ผม’ ให้ปลูก (คิ้วกับหนวด เครา ก็ปลูกได้นะ)

รักผมให้ปลูก

ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านสามารถพบเจอได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ซึ่งการปลูกผมถือเป็นทางออกที่ดี มีความปลอดภัยสูงและเป็นธรรมชาติ เพราะขั้นตอนการปลูกผมทั้งหมดจะกระทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะด้าน

แพทย์หญิงกุลธิดา ลุสวัสดิ์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม โรงพยาบาลศัลยกรรมมาสเตอร์พีช ให้ข้อมูลว่า การปลูกผม คือการย้ายรากผมจากที่หนึ่ง หรือบริเวณด้านหลังศีรษะไปยังอีกจุดหนึ่งที่มีปัญหา ไม่ใช่การเพิ่มปริมาณเส้นผมจากที่มีอยู่ เนื่องจากบริเวณที่นำรากผมออกมาแล้วจะไม่มีการงอกขึ้นมาใหม่ แต่ผมจะไปขึ้นบริเวณที่นำรากผมไปปลูกแทน ซึ่งระยะเวลาในการปลูกผมจะใช้ระยะเวลาประมาณ 7 – 10 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของคนไข้แต่ละคน

เทคนิคการศัลยกรรมปลูกผมมีกี่แบบ

การปลูกผมสามารถทำได้ด้วยสองเทคนิคที่แตกต่างกัน และเทคนิคที่ว่านั้นคือ เทคนิค FUE และเทคนิค DHI โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และเลือกเทคนิคที่เหมาะสมในแต่ละเคส

การปลูกผมไม่ต้องผ่าตัดแบบ FUE คืออะไร

เป็นการปลูกผมที่นิยมมากในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นวิธีการปลูกผมที่ถูกคิดค้นขึ้นใหม่ และทันสมัยมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งการปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) นั้นไม่ใช่การผ่าตัด ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาเจ็บตัวน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน

การปลูกผมแบบนี้เป็นการปลูกผมที่มีขั้นตอนการย้ายเซลล์รากผมในรูปแบบหนึ่ง ใช้วิธีการปลูกถ่ายเซลล์รากผมลงไปในบริเวณที่ไม่มีเส้นผม หรือบริเวณที่ผมร่วง ผมบาง โดยขั้นตอนนี้ต้องใช้ความชำนาญและความประณีตค่อนข้างสูง

การย้ายเซลล์รากผมต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยจะเลือกเส้นผมบริเวณส่วนท้ายทอย ซึ่งรากผมบริเวณนี้เป็นจุดที่เส้นผมมีความสมบูรณ์แข็งแรงมากกว่าส่วนอื่น แพทย์จะใช้หัวเจาะขนาดประมาณ 0.8 – 1.0 มิลลิเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กมาก เจ็บน้อย ไร้รอยแผลผ่าตัด แถมไม่ต้องพักฟื้นด้วย

ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUE นี้คือไม่ต้องผ่าตัดบริเวณหลังศีรษะ ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่า ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แถมยังสามารถย้ายรากผมไปปลูกบริเวณอื่นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณคิ้ว หนวด จอน เครา

หลักการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE

อันดับแรกเลยแพทย์จะทำการออกแบบแนวผมที่จะทำการปลูกใหม่ให้เหมาะกับโครงหน้าของคนไข้ หลังจากนั้น จะโกนผมบริเวณหนังศีรษะด้านหลัง เพื่อให้ง่ายต่อการย้ายเซลล์รากผม ก่อนที่จะทำการฉีดยาชาบริเวณท้ายทอย เพื่อระงับความเจ็บปวด

หลังจากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีขนาดเล็กมากเจาะย้ายเซลล์รากผมโดยจะเจาะไปรอบ ๆ กอผมบริเวณท้ายทอยแล้วนำรากผมที่ถูกแยกออกมาปลูกถ่ายลงในตำแหน่งที่ต้องการ ขั้นตอนนี้ต้องใช้เทคนิค ความชำนาญการของแพทย์ เพื่อให้เส้นผมที่ปักลงไปเรียงตัวตามเส้นผมธรรมชาติของคนไข้

ที่สำคัญเทคนิคนี้เป็นการใช้เซลล์รากผมของตัวคนไข้เอง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม หรือสารอันตราย จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือต่อต้าน รอยแผลจะมีขนาดเล็กมาก หลังปลูกผมไปแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

เทคนิค FUE เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางกลางศีรษะ หัวล้าน หน้าผากกว้าง และผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้า เช่น อยากให้ใบหน้าดูเรียวลง

เทคโนโลยีปลูกผม

เทคโนโลยี WAW FUE เป็นนวัตกรรมใหม่ที่นำเข้ามาจากประเทศเบลเยียม เพื่อช่วยให้การปลูกผมได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ใช้ระยะเวลาสั้นลง และเก็บรากผมอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่เหนือสิ่งอื่นใดผู้ที่เข้ารับการปลูกผมจะต้องมีวินัยปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีหลังทำ และการอดทนรอเวลาเพื่อเส้นผมที่แข็งแรงจะเกิดขึ้นมาภายใน 6 – 12 เดือน

การปลูกผมแบบ DHI คืออะไร

การปลูกผมด้วยเทคนิค DHI (Direct Hair Implantation) เป็นการปลูกผมแบบ FUE ประเภทหนึ่ง ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของวงการปลูกผมในปัจจุบัน เป็นการย้ายเซลล์รากผมถาวรจากบริเวณหลังศีรษะไปไว้ในตำแหน่งที่ไม่มีเส้นผม ซึ่งขั้นตอนการทำศัลยกรรมจะคล้ายกับการปลูกผมแบบ FUE แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคนิคการใส่ผมเข้าไปใต้ผิวหนัง โดยใช้อุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Implanter ในการปลูกผมแทนการใช้ปากคีบ (Forcep) โดยการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI สามารถปลูกผมทีละเส้นได้ในครั้งเดียว

ข้อดีของเทคนิค DHI

เทคนิค DHI มีข้อดีอยู่ไม่น้อย ปริมาณผมแน่นขึ้นและถี่กว่าการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE เนื่องจากแพทย์ใช้เครื่องมือเฉพาะในการปลูกผมในครั้งเดียวอีกทั้งยังควบคุมความลึก มุม ทิศทางของรากผม เพื่อให้เส้นผมใหม่ที่ปลูกมีลักษณะเดียวกับผมธรรมชาติของเรา นอกจากนี้ยังไม่มีรอยแผลเป็น ไม่ต้องพักฟื้นด้วย

อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเส้นผมเลย ศีรษะโล้น แต่ถ้าหากมีปัญหาผมร่วงด้วยฮอร์โมน อาจจะต้องกินยาเพื่อรักษา

เทคนิค DHI เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมบาง หนังศรีษะล้านเล็กน้อย และคนที่ต้องการปลูกผมเพียงเล็กน้อย รวมทั้งผู้ที่ต้องการปลูกผมโดยไร้รอยแผลเป็น รวมไปถึงผู้ที่มีเวลาพักฟื้นน้อย

ศัลยกรรมปลูกคิ้วคืออะไร

ศัลยกรรมปลูกคิ้วจะคล้ายกับการปลูกผม เนื่องจากเป็นการย้ายเซลล์รากผมบริเวณที่แข็งแรงที่สุด คือส่วนท้ายทอย แพทย์จะนำเซลล์รากผมย้ายมาปลูกบริเวณคิ้ว โดยความหนาของเส้นขนและการงอกจะเหมือนเส้นผมเลย ทำให้หลังจากที่ทำการปลูกคิ้วไปแล้ว ต้องมีการตัดแต่งอยู่เสมอ

การปลูกคิ้วถือเป็นหัตถการที่มีความละเอียดสูง และยังต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ตั้งแต่การออกแบบทรงคิ้วไปจนถึงการวางทิศทางของเส้นคิ้วแต่ละเส้นอีกด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดนั่นเอง

ใครบ้างที่ควรปลูกคิ้ว

คนที่มีปัญหาคิ้วบางตั้งแต่กำเนิด ปัญหาคิ้วไม่เป็นทรง คิ้วไม่ได้สัดส่วน กรณีคิ้วแหว่งจากอุบัติเหตุ โรคผิวหนังบางชนิด สำหรับคนที่สักคิ้วมาแล้วแต่ต้องการปลูกขนคิ้วเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติมากขึ้น กรณีที่สักคิ้วแล้วไปลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ทำให้ขนคิ้วจริงหลุดร่วงหมด คิ้วไม่เป็นสัดส่วน ไม่ได้รูปทรงสวย คิ้วแหว่งจากการผ่าตัด และคนที่ต้องการเพิ่มความคมเข้มให้คิ้ว

ผู้ชายปลูกคิ้วได้ไหม

ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถปลูกคิ้ว และปัจจุบันเป็นที่นิยมอีกด้วย เนื่องจากผลลัพธ์ของการทำหัตถการดังกล่าวนั้นเป็นที่พึงพอใจสำหรับหนุ่มๆ หลายคน ทั้งเรื่องของความเป็นคงอยู่แบบถาวรของขนคิ้ว ทิศทางการจัดเรียงของเส้นขน ที่สำคัญคือความเป็นธรรมชาติหลังจากปลูกคิ้ว

การปลูกคิ้วถาวรเหมือนการสักคิ้วหรือไม่

ไม่เหมือน การสักคิ้วเป็นการใช้เส้นเขียน แต่ไม่ได้มีมิติขึ้นมาจริงๆในอนาคตเส้นคิ้วที่สักขึ้นมาจะค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ จากสีที่เข้มก็จะเริ่มอ่อนลง ทำให้ต้องมีการใช้เครื่องสำอางเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความเข้ม ความคมชัดของคิ้วส่วนการปลูกคิ้วเป็นการย้ายเซลล์รากผมบริเวณส่วนท้ายทอยของเรามาปลูกบริเวณคิ้ว ผลลัพธ์ที่ได้จึงสวยงาม เน้นความเป็นธรรมชาติที่สำคัญคิ้วที่ปลูกจะเป็นคิ้วจริงๆ ของเรา ทำให้มีสีเดียวกับสีคิ้วเดิม แถมยังสามารถตัดแต่งทรงคิ้วได้ตามที่ต้องการ

ศัลยกรรมปลูกหนวด เครา คืออะไร

ศัลยกรรมปลูกหนวด ปลูกเครา จอน เป็นวิธีเพิ่มปริมาณเส้นขนแบบธรรมชาติ ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับการปลูกผม โดยการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณที่มีความแข็งแรงของเซลล์รากผมมากที่สุด นั่นก็คือ บริเวณท้ายทอย แพทย์จะนำมาปลูกบริเวณที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหนวด เครา จอน

แต่การเลือกขนาดของเส้นผมจะแตกต่างกันเล็กน้อย เพราะในการปลูกหนวดนั้นต้องเลือกเส้นผมที่ใกล้เคียงกับขนาดของเส้นขนเดิม และจัดเรียงให้ปลูกขึ้นในทิศทางใกล้เคียงกับหนวดเดิมเพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด

ใครบ้างที่ควรทำศัลยกรรมปลูกหนวด เครา

คนที่มีหนวดแหว่ง อาจมีสาเหตุมาจากแผลผ่าตัดหรือแผลเป็นที่เกิดจากโรคต่างๆ มีความต้องการปกปิดรอยแผลเป็น ผู้ที่ปลูกหนวดด้วยเซรั่มไม่ได้ผลตามที่ต้องการ คนที่อยากเพิ่มความหนา ความดกดำ ให้กับหนวด เครา จอน เพื่อเสริมบุคลิกภาพ ความคมเข้มให้กับใบหน้า คนที่อยากปรับเปลี่ยนรูปทรงหนวดเดิมให้เข้ากับใบหน้าและดูเป็นธรรมชาติ

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปลูกผม คิ้ว หนวด เครา เพิ่มเติม สามารถหาอ่านได้จากหนังสือ “รักผมให้ปลูก” วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในร้านหนังสือชั้นนำ หรือขอรับคำปรึกษาได้ที่ โรงพยาบาลศัลยกรรมมาสเตอร์พีช www.masterpiecehospital.com

3M Hairtransplant
Read More

ปลูกผม แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องเตรียมตัว

ปลูกผม แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องเตรียมตัว

 3M Hair Transplant by Masterpiece Hospital ที่เป็นศูนย์ดูแลเส้นผมครบวงจรแบบเฉพาะด้าน ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครย่านดุสิต ได้เล็งเห็นถึงปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่กว่า 80% ที่มีปัญหา ผมบาง ผมร่วง โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากกรรมพันธุ์ และได้ตามหานวัตกรรมที่จะช่วยดูแลรักษาบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องเตรียมตัว จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้แล้ว ซึ่งถ้าอยากรู้ว่า นวัตกรรมเหล่านี้มีอะไรบ้าง อ่านต่อ

     1. EXOSOME เป็นนวัตกรรมการดูแลรักษาเส้นผมและหนังศีรษะแบบใหม่ ที่สามารถช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม กระตุ้นให้เซลล์รากผมแข็งแรง อีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูเส้นผมที่อ่อนแอให้กลับมาดีขึ้น และทำไมถึงควรทำ EXOSOME ที่ 3M Hair Transplant
     – สะอาด ปลอดภัย มาตรฐานระดับโรงพยาบาล
     – ฟื้นฟูรากผมที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
     – ทำให้เซลล์รากผมสร้างผมได้มากขึ้น และเร็วขึ้น
     – ชะลออาการผมบางและช่วยให้ผมกลับมาแข็งแรงขึ้น
     – อัตราการขึ้นของเส้นผมเยอะขึ้น เส้นผมหนาแน่นขึ้น
     – ช่วยให้เส้นผมดกดำ เงางามขึ้น
หลายคนจะคิดว่าเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหา ผมร่วง ผมบาง แต่ยังเหมาะกับคนที่มีปัญหาหัวล้านด้วย
     
     2. SVF Stem Cell Regenera activa นวัตกรรม “ปลูกผมไม่ต้องผ่าตัด” ด้วยนวัตกรรมใหม่ เป็นการรักษาอาการ ผมบาง จนเห็นหนังศีรษะ เเบบไม่ต้องพักฟื้น เเละไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์ที่ได้คือเส้นผมกลับมาดกดำเเละมีปริมาณมากขึ้น ที่สำคัญใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
     – ไร้แผลผ่าตัด ไม่ต้องเย็บแผล 3M Hair Transplant จะเลือกเซลล์กราฟผมที่มีคุณภาพ ออกมาปั่นสกัดเซลล์
     – ปลอดภัยเพราะเป็น Stem Cell จากผู้เข้ารับการรักษา ดำเนินการโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์
วิธีการทำง่าย ๆ และใช้เวลาน้อยเพียง 1-2 ชั่วโมง อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพียงใช้เนื้อเยื่อของตัวผู้เข้ารับการรักษา นำมาสกัดแยกเซลล์ ด้วยนวัตกรรมที่เรามี หลังจากนั้นจะนำเนื้อเยื่อที่แยกแล้ว เข้ากระบวนการสกัดเซลล์ด้วยเครื่อง Regenera activa เครื่องจะทำการคัดแยกจนได้เซลล์จำนวนมากกว่า 100,000 เซลล์ และนำเซลล์ที่ได้มาฉีดบริเวณหนังศีรษะที่เกิดปัญหา

     3. PRP Premium (Platelet Rich Plasma) การทำ PRP ผม คือ การที่แพทย์จะฉีด เกล็ดเลือดเข้มข้น ของคนไข้เอง เข้าไปที่หนังศีรษะบริเวณที่พบปัญหา ผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้าน เพื่อให้เกล็ดเลือดเข้มข้น เข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ทำให้ผมที่งอกออกมาใหม่ มีขนาดเส้นผมที่หนามากขึ้นและแข็งแรงมากขึ้น อีกยังสามารถช่วยกระตุ้นให้เซลล์รากผมที่หยุดทำงานไปแล้วกลับมาทำงานและงอกขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง พร้อมทั้งบำรุงเซลล์รากผมให้กลับมาแข็งแรง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหา ผมร่วง ผมบาง ได้ในระยะยาวทำให้ผมกลับมาดูหนามากขึ้น
     การทำ PRP ผมเพื่อรักษาอาการผมร่วงผมบาง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้สารเคมี ไม่เจ็บตัว และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ซึ่งการทำ PRP ผมนับว่าเป็นวิธีรักษาอาการผมร่วงผมบางแบบธรรมชาติและปลอดภัยต่อร่างกาย

     ทั้งหมดที่กล่าวมา เหมาะสำหรับผู้ที่มี ผมบาง ผมร่วง หรือต้องการบำรุงรากผมหลังจากการ ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกหนวด ปลูกจอน และถ้าถามว่า ปลูกผมที่ไหนดี ก็ต้อง 3M Hair Transplant เท่านั้นนะ

Website: www.3mhairtransplant.com

ปลูกผม ไม่ต้องผ่าตัด

Facebook : https://www.facebook.com/3mhair.masterpiece

LINE : https://lin.ee/m1yiop8

Instagram : https://www.instagram.com/3mhairtransplant/

Youtube : https://www.youtube.com/@3mhairtransplant

TikTok : https://www.tiktok.com/@3mhairtransplant

Read More

ปัญหา ผมร่วง รักษาได้อย่างไรบ้าง?

ปัญหาผมร่วงรักษาได้อย่างไรบ้าง

ปัญหา ผมร่วง หัวล้าน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ส่งผลกระต่อความมั่นใจของใครหลาย ๆ คน การปลูกผมจึงเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ สำหรับปัญหาเหล่านี้ โดยการย้ายรากผมซึ่งเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก เพื่อแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ไม่เป็นอันตราย แต่ต้องอาศัยฝีมือแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ในการทำหัตถการนี้ เพราะต้องกำหนดทิศทางของผมให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ที่สำคัญ คือเทคนิคในการย้ายเส้นผมจากจุดหนึ่งมาอีกจุดหนึ่งในมีอัตราการรอดสูงสุดค่ะ

หากคุณกำลังพบกับปัญหา ผมร่วง คุณไม่ได้เป็นคนเดียว เนื่องจากปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้กับหลาย ๆ คนทั่วโลก ดังนั้นศูนย์ดูแลเส้นผม 3M Hair จึงอยากให้ข้อมูล และแนวทางในบทความนี้อาจจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหา และมีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับปัญหาผมร่วง

วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม

วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม

วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

  • ระยะการเจริญเติบโต (Anagen phase) เป็นระยะที่เส้นผมเจริญเติบโตเต็มที่ เส้นผมจะงอกยาวขึ้นประมาณ 1 เซนติเมตรต่อเดือน ระยะนี้กินเวลาประมาณ 2 – 6 ปี
  • ระยะหยุดการเจริญเติบโต (Catagen phase) เป็นระยะที่เส้นผมหยุดการเจริญเติบโต เส้นผมจะหยุดยาวขึ้นและเริ่มลีบบางลง ระยะนี้กินเวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์
  • ระยะหลุดร่วง (Telogen phase) เป็นระยะที่เส้นผมหลุดร่วง เส้นผมจะหลุดร่วงไปประมาณ 100 เส้นต่อวัน ระยะนี้กินเวลาประมาณ 3 – 4 เดือน

เส้นผมแต่ละเส้นจะอยู่ในวงจรการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน เส้นผมประมาณ 85 – 90% ของเส้นผมทั้งหมดจะอยู่ในระยะการเจริญเติบโต เส้นผมประมาณ 10 – 15% ของเส้นผมทั้งหมดจะอยู่ในระยะหยุดการเจริญเติบโต และเส้นผมประมาณ 5% ของเส้นผมทั้งหมดจะอยู่ในระยะหลุดร่วง หากเส้นผมอยู่ในระยะการเจริญเติบโตนานขึ้น เส้นผมก็จะยาวขึ้น หากเส้นผมอยู่ในระยะหยุดการเจริญเติบโตนานขึ้น เส้นผมก็จะลีบบางลง หากเส้นผมอยู่ในระยะหลุดร่วงนานขึ้น เส้นผมก็จะหลุดร่วงมากขึ้น

สาเหตุของ ผมร่วง

สาเหตุของ ผมร่วง

ผมร่วง เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในผู้ชาย และผู้หญิง มีหลายสาเหตุที่อาจทำให้เกิดได้แก่

  • พันธุกรรม : พันธุกรรมเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของผมร่วง ผู้ชายที่มีประวัติผมร่วงในครอบครัวมีแนวโน้มที่จะผมร่วงมากกว่าผู้ชายที่ไม่มีประวัติผมร่วงในครอบครัว
  • ฮอร์โมน : ฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่าเทสโทสเตอโรนมีส่วนเกี่ยวข้องกับผมร่วง เทสโทสเตอโรนจะถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนอีกตัวหนึ่งที่เรียกว่าไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ซึ่งสามารถทำลายรากผม และทำให้ผมร่วงได้
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น การเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน, การตั้งครรภ์, และการให้นมบุตร อาจทำให้เกิดผมร่วงได้
  • โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ, โรคลูปัส, โรคโลหิตจาง ซึ่งโรคเหล่านี้ทำให้ระบบร่างกายทำงานผิดปกติ และไปรบกวนวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้การเติบโตหยุดชะงักเป็นเหตุให้มีผมร่วงเป็นจำนวนมาก 
  • ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด, ยาต้านการอักเสบ, ยาคุมกำเนิด, รวมไปถึงวิตามิน หากร่างกายได้รับในปริมาณที่มากเกินไป โดยที่ร่างกายไม่จำเป็นต้องได้รับจะส่งผลให้ไประงับการเติบโตของรากผม ทำให้เกิดผมร่วงได้ค่ะ
  • ภาวะขาดสารอาหาร มักเกิดกับผู้ที่ลดน้ำหนักผิดวิธี ทำให้น้ำหนักลงมาก ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ ในบางรายมีภาวะขาดสารอาหารจำพวก ขาดธาตุเหล็ก, ขาดสังกะสี, ขาดวิตามินบี 12 ซึ่งทำให้เส้นผมอ่อนแอ และอาจทำให้เกิดผมร่วงได้
  • ปัจจัยทางจิตวิทยา ความเครียด, ความวิตกกังวล, ภาวะซึมเศร้า ในบางรายมีการดึงผม หรือถอนผมตัวเองโดยไม่รู้ตัว มักพบในกลุ่มคนที่มีความเครียด ซึ่งเหตุให้เส้นผมถูกทำลาย นำไปสูการสูญเสียรากผมแบบถาวรได้ค่ะ
ผมร่วง เกี่ยวกับพันธุกรรมไหม

ผมร่วง เกี่ยวกับพันธุกรรมไหม

แน่นอนว่าสาเหตุของผมร่วงตั้งแต่อายุยังน้อย สาเหตุมักมาจากพันธุกรรมมากกว่าปัจจัยอื่น ๆ พันธุกรรมเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดผมร่วงได้ ประมาณ 80% ของผู้ชายที่มีอาการผมร่วงจะมีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม ในกรณีของผู้หญิง ประมาณ 30 – 50% ของอาการผมร่วงจะมีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม 

พันธุกรรมที่ส่งผลต่อผมร่วงจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ฮอร์โมนนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ซึ่งจะเข้าไปทำลายรากผม ทำให้ผมร่วง และบางลง

ผมร่วง แค่ไหนถึงต้องรักษา

ผมร่วง แค่ไหนถึงต้องรักษา

เส้นผมร่วงเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในผู้ชาย และผู้หญิง สาเหตุของผมร่วงมีมากมาย เช่น กรรมพันธุ์ การขาดสารอาหาร ฮอร์โมน ยาบางชนิด ภาวะเครียด โรคต่าง ๆ โดยทั่วไปแล้วผู้ชายจะมีอาการผมร่วงมากกว่าผู้หญิง แต่ผู้หญิงก็สามารถมีอาการผมร่วงได้เช่นกัน

หากผมร่วงมากกว่าปกติ อาจทำให้รู้สึกกังวล และขาดความมั่นใจ การรักษาผมร่วงมีหลายวิธี เช่น การใช้ยา การรักษาด้วยเลเซอร์ การปลูกผม หรือการผ่าตัด การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ และความรุนแรงของผมร่วง ลักษณะอาการเหล่านี้ที่อาจบ่งชี้ว่าถึงเวลาต้องรักษาผมร่วงแล้ว ผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน ,ผมร่วงเป็นกระจุก, ผมร่วงจากบริเวณที่มองเห็นได้ชัดเจน เช่น ศีรษะด้านหน้าหรือด้านบน ผมร่วงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน, ผมร่วงทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวลหรือขาดความมั่นใจ

การรักษา ผมร่วง ด้วยวิธี PRP

การรักษาผมร่วงด้วยวิธี PRP

PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นการรักษาผมร่วงที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน PRP เป็นการนำเกล็ดเลือดของผู้ป่วยเองมาฉีดเข้าสู่หนังศีรษะ ซึ่งเกล็ดเลือดนี้จะมีสาร growth factor ที่จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น ลดการหลุดร่วง ผลการรักษาของ PRP นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 3 – 6 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่นานประมาณ 1 – 2 ปี

PRP เป็นการรักษาที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ หรือผู้ที่มีปัญหาผมขาดหลุดร่วงหลังคลอดบุตร PRP สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาเพื่อประเมินว่า PRP เหมาะสำหรับคุณหรือไม่

ขั้นตอนการทำ PRP นั้นไม่ซับซ้อน ใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที แพทย์จะทำการเจาะเลือดจากผู้ป่วยประมาณ 10 – 20 มิลลิลิตร จากนั้นจะนำเลือดไปปั่นแยกเกล็ดเลือดออกมา เกล็ดเลือดที่ได้จะถูกนำไปผสมกับสาร growth factor แล้วฉีดเข้าสู่หนังศีรษะบริเวณที่มีปัญหาผมขาดหลุดร่วง

รักษา ผมร่วง ด้วยการปลูกผม

รักษาผมร่วงด้วยการปลูกผม

การปลูกผมเป็นวิธีรักษาผมร่วงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน การปลูกรากผมเป็นการผ่าตัดที่ย้ายรากผมจากบริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่ง ซึ่งเทคนิคที่นิยมมากที่สุดคือ FUT (Follicular Unit Transplantation) และ FUE (Follicular Unit Extraction)

  • การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation)

เทคนิคแบบ FUT เป็นการย้ายรากผมโดยการตัดแถบหนังศีรษะจากบริเวณด้านหลังศีรษะ จากนั้นจึงนำรากผมออกมาทีละกอ แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ล้าน หรือบาง เทคนิคแบบ FUT ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ผลลัพธ์ของเทคนิคแบบ FUT ค่อนข้างดี แต่แผลผ่าตัดอาจเห็นรอยแผลเป็นได้

  • การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction)

เทคนิคแบบ FUE เป็นการย้ายรากผมโดยการใช้เครื่องมือเจาะรูเล็ก ๆ บนหนังศีรษะ จากนั้นจึงนำรากผมออกมาทีละกอ แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ล้าน หรือบาง เทคนิคแบบ FUE ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ผลลัพธ์ของเทคนิคแบบ FUE ค่อนข้างดี และไม่มีแผลผ่าตัดให้เห็น

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม

การเตรียมตัวก่อนทำหัตถการต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากเนื่องจากจะส่งผลกระต่อตัวคนไข้ระหว่างการผ่าตัด หรือหลังการผ่าตัดได้ ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นดังนี้ค่ะ

  1. หากมีโรคประจำตัว หรือมีการรับประทานยารักษาโรคอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบการเข้ารับการผ่าตัด 
  1. งดวิตามินอาหารเสริม ที่มีส่วนผสมของน้ำมันทุกชนิดอย่างน้อย 10 – 14 วันก่อนการผ่าตัด เนื่องจากจะส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดขณะผ่าตัด
  1. งดสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ก่อนการปลูกผม
  1. งดการใช้ Rogaine หรือ (minoxidil) อย่างน้อย 7 วัน ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากเป็นสารที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม 
  1. ในวันผ่าตัดควรใส่เสื้อที่ผ่าด้านหน้า เนื่องจากหลังการผ่าไม่ควรสวมเสื้อผ่านทางศีรษะ เพื่อป้องกันการกระทบบริเวณที่ทำการปลูกผม
  1. งดแต่งหน้า และจัดแต่งทรงผมในวันที่ผ่าตัด
ขั้นตอนการปลูกผม

ขั้นตอนการปลูกผม

  1. การประเมิน และปรึกษา ก่อนที่จะเริ่มการปลูกผมคนไข้จะต้องไปพบกับแพทย์ เพื่อทำการประเมินสภาพผม วางแผนการปลูกรากผม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการของคนไข้
  1. โกนผมบริเวณที่จะปลูก และฉีดยาชาให้ทั่วบริเวณดังกล่าว
  1. เมื่อยาชาออกฤทธิ์แพทย์จะทำการเจาะกราฟผม ด้วยเครื่องมือเจาะหนังศีรษะตรงรากผม
  1. ในระหว่างที่เซลล์รากผมอยู่ภายนอกร่างกาย แพทย์จะเก็บรักษากราฟผมด้วยน้ำยาเลี้ยงเซลล์ เพื่อให้คงคุณภาพของรากผมให้สมบูรณ์ที่สุด ก่อนปลูกถ่ายกลับเข้าไปบนศีรษะ
  1. จากนั้นแพทย์จะทำการเจาะรู และนำเซลล์รากผมใส่ลงในรูที่เจาะเตรียมไว้จนครบบริเวณที่จะปลูก
การดูแลตัวเองหลังปลูกผม

การดูแลตัวเองหลังปลูกผม

การปลูกผมเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างเล็ก แต่สิ่งสำคัญคือต้องดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังการผ่าตัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรดูแลตัวเองอย่างเคร่ง และปฏิบัติตาคำสั่งแพทย์ดังนี้ค่ะ

  1. หลังการปลูกผมควรพันผ้าทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ไม่ควรจับ แกะ เกา ซับเลือด  เนื่องจากรากผมจะยังไม่เชื่อมติดกับผิวหนังใหม่ที่พึ่งปลูกลงไป 
  1. ใส่ผ้ารัดศีรษะไว้ให้ครบกำหนดเวลาตามที่แพทย์แจ้ง โดยตอนนอนก็จำเป็นต้องใส่ไว้
  1. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้ความดันร่างกายเพิ่มขึ้น และจะกระตุ้นให้เลือดออกได้ง่าย
  1. หลีกเลี่ยงการให้ศีรษะถูกแสงแดดโดยตรงเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ หากต้องออกจากบ้าน แนะนำให้สวมหมวกผ้าที่มีความโปร่ง ไม่อับ ไม่รัด หรือกดทับบริเวณแผล 
  1. งดออกกำลังกาย และกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายหนัก ๆ เนื่องจากหากร่างกายเกิดความดันเพิ่มขึ้นจะดันให้กราฟผมหลุดได้ค่ะ
วิธีป้องกันผมกลับมาร่วงซ้ำ

วิธีป้องกันผมกลับมาร่วงซ้ำ

  • ดูแลหนังศีรษะให้สะอาด และแข็งแรง หนังศีรษะที่สะอาด แข็งแรงจะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และเชื้อราที่อาจทำให้ผมร่วงได้  โดยการสระผมด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทางสถานพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้ หลีกเลี่ยงการสระผมบ่อยเกินไป และใช้ความร้อนกับผมให้น้อยที่สุด
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผม เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินบี และวิตามินซี จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง และลดการหลุดร่วงได้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม ผักใบเขียว ถั่ว ธัญพืช ผลไม้ ผักผลไม้สีแดง
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน สามารถทำให้ผมร่วงได้ โดยดื่มน้ำเปล่าแทน ชาสมุนไพร หรือน้ำผลไม้
  • จัดการกับความเครียด ความเครียดสามารถทำให้ผมร่วงได้ คุณสามารถจัดการกับความเครียดได้โดยการออกกำลังกาย ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายอื่น ๆ
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่อ่อนโยน ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่อ่อนโยนจะไม่ทำให้หนังศีรษะระคายเคือง ซึ่งอาจทำให้ผมร่วงได้ คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่อ่อนโยนที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันโจโจบา
Read More

Berry Berry ร่วมพิสูจน์ผลิตภัณฑ์เส้นผมยอดนิยมกับ 3M Hair Transplant by Masterpiece

Berry Berry ร่วม 3M Hair พิสูจน์ผลิตภัณฑ์เส้นผมยอดนิยม

วันนี้น้อง ๆ ได้เข้ามาดูแลเส้นผมด้วยวิธีการสะกิดวิตามินสูตรเข้มข้นพิเศษของทางโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช 3M Hair Treatment ช่วยเพิ่มความหนาแน่น และความแข็งแรงของเส้นผม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถูกทำร้ายจากความร้อนของไดร์เป่าผม จากเคมีต่าง ๆ เวลาต้องทำผมออกงาน 3M Treatment มีขั้นตอนการดูแลเพียง 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  1. สะกิดวิตามินสูตรเข้มข้น ลงบนหนังศีรษะ
  2. ผลักวิตามินให้ซึมลึกสู่หนังศีรษะ ด้วยคลื่นพลังงานไฟฟ้าอ่อน ๆ
  3. ฉายแสงสีแดง กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เสริมสร้างความแข็งแรงของรากผม

3M Hair

นอกจาก 3M Hair Transplant by Masterpiece จะมีการดูแลเกี่ยวกับทรีตเม้นต์สูตรพิเศษ และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแล้ว ยังมีการปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกหนวดเครา ด้วยเทคนิคพิเศษที่ แน่น ถี่ ละเอียด โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ ให้น้อง ๆ Berry Berry สะบัด เต้น สนุกได้ทุกโชว์

หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่
3M Hair Transplant by Masterpiece Hospital
โทร : 061-402-9416
Line ID: @3mhairtransplant

Read More

คุณกวินท์ ดูวาล แร็บเปอร์ชื่อดัง “ ปลูกผม ” แล้ว

คุณกวินท์ดูวาลแร็บเปอร์ชื่อดัง ปลูกผม แล้ว

คุณกวินท์ ดูวาล ปลูกผม นักร้องแร็ปเปอร์ชื่อดังของไทย ที่ใคร ๆ ก็รู้จักจากผลงานล่าสุด “ Rocket to the Moon ” มีความกังวลใจปัญหาผมร่วง ผมบาง บริเวณตรงกลางศีรษะ ถ้าไม่ ปลูกผม อาจทำให้ตกแต่งทรงผมลำบาก เนื่องจากตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ เข้าสู่วงการใหม่ ๆ ต้องจัดแต่งทรงผมอยู่ตลอด ทั้งไดร์ร้อน ฉีดสเปรย์ สมัยนั้นทำทรง 90 องศา และจัดแต่งทรงผมตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของคุณกวินท์เป็นอย่างมาก

     จากตรงนี้เองคุณกวินท์จึงมองหาวิธีการที่จะแก้ไขความกังวลใจนี้ ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ พบว่าหลายคนใช้ยาก็แล้ว ฉีด PRP ก็ไม่ขึ้น สุดท้ายเหลือวิธีเดียวที่ดีที่สุดคือการปลูกผม จึงได้หาข้อมูลสถานที่ปลูกผมที่ดีที่สุด ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ และที่สำคัญต้องปลอดภัยที่สุดด้วย ในขณะนั้นเห็นว่าเพื่อนของคุณกวินท์ซึ่งคือ คุณเอนัน (Iron Boy) แร็บเปอร์ชื่อดังของไทยเพิ่งมาปลูกผมที่ 3M Hair transplant by Masterpiece Hospital จึงได้เข้าไปสอบถามเพื่อน


     คุณกวินท์ได้ข้อมูลจากเพื่อนมาว่าปลูกผมที่ 3M Hair transplant by Masterpiece Hospital ไม่เจ็บเนื่องจากหลับตลอดการปลูกผม จากการที่มีทีมวิสัญญีดูแลแบบ 1 ต่อ 1 จึงรู้สึกมั่นใจขึ้นไปอีก นี่แหละข้อดีของการทำศัลยกรรมที่ “โรงพยาบาล”


     อย่างที่เราทราบกันว่าปัญหาผมร่วง ผมบางสามารถพบเจอได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย ซึ่งการปลูกผมถือเป็นทางออกที่ดี มีความปลอดภัยสูงและเป็นธรรมชาติ ขั้นตอนการปลูกผมทั้งหมดจะกระทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการและทีมปลูกที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น

     การปลูกผมคือการย้ายรากผมจากที่หนึ่งหรือบริเวณด้านหลังศีรษะไปยังอีกจุดหนึ่งที่มีปัญหา ไม่ใช่การเพิ่มปริมาณเส้นผมจากที่มีอยู่ เนื่องจากบริเวณที่นำรากผมออกมาแล้วจะไม่มีการงอกขึ้นมาใหม่ แต่ผมจะไปขึ้นบริเวณที่นำรากผมไปปลูก ซึ่งระยะเวลาในการปลูกผมจะประมาณ 6-8 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่ปลูกและความยากง่ายของคนไข้แต่ละคนด้วย

     ใครบอกว่าปลูกผมทำง่าย?

     การปลูกผมเป็นศัลยกรรมที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ที่สูงของแพทย์และทีมปลูก เนื่องจากเป็นงานที่ละเอียดอ่อน ต้องมีการเจาะและคัดแยกกราฟผม ผมเส้นเล็กเราจะไว้แต่งไรผมด้านหน้า ผมเส้นใหญ่เราจะปลูกด้านในให้ดูหนาและแน่น อีกทั้งการปลูกยังต้องปลูกไปทีละกราฟ จากตรงนี้จึงใช้เวลาที่ค่อนข้างนาน (กราฟ คือ กอรากผมที่มีผมอยู่จำนวน 1-5 เส้น)


     เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราต้องปลูกผมกี่กราฟ?
     แต่ละคนมีปัญหาผมบางที่แตกต่างกัน ต้องมีการประเมินจากแพทย์ผู้ชำนาญการว่าตำแหน่งที่ผมบางมีตำแหน่งไหนบ้าง ความหนาแน่นของผมเดิมเป็นอย่างไร ความแข็งแรงของเส้นผมเราในแต่ละตำแหน่งมีมากน้อยแค่ไหน และเซลล์รากผมเหลือให้ปลูกอีกมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจะมีการวางแผนการปลูกร่วมกันกับคนไข้

     “หมอนุ่น” พญ.กุลธิดา ลุสวัสดิ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปลูกผม ศูนย์ปลูกผม 3M Hair transplant by Masterpiece Hospital แพทย์ผู้ปลูกผมให้กับคุณกวินท์ หลังจากที่ประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะด้วยกล้องไมโครสโคปแล้วพบว่าคุณกวินท์ต้องปลูกผมจำนวน 3,000 กราฟ ซึ่งคุณกวินท์ได้ลงปลูกไปแล้วช่วงปลายเดือนตุลาคม 2566 เรามารอติดตามผลการปลูกของคุณกวินท์กันต่อไป


Website: www.3mhairtransplant.com

การ ปลูกผม
Facebook : https://www.facebook.com/3mhair.masterpiece
LINE : https://lin.ee/m1yiop8
Instagram : https://www.instagram.com/3mhairtransplant/
Youtube : https://www.youtube.com/@3mhairtransplant
TikTok : https://www.tiktok.com/@3mhairtransplant
Read More

การสักคิ้วและการปลูกคิ้วแตกต่างกันอย่างไร

การสักคิ้ว

ปัจจุบันการแก้ปัญหาคิ้วบางแบบถาวร สามารถแก้ไขได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้เซรั่มปลูกขนคิ้ว การสักคิ้ว หรือการศัลยกรรมปลูกคิ้วถาวร หลายคนที่มีปัญหาเรื่องคิ้วอาจกำลังเปรียบเทียบอยู่ว่า จะให้วิธีไหนดี วันนี้เรามีข้อแตกต่างของสองวิธีมาฝากกันค่ะ

การสักคิ้วเป็นการใช้เครื่องมือสักคิ้วมาเขียนเส้นคิ้วบนผิวหนัง ในขณะที่การปลูกคิ้วเป็นการใช้เครื่องมือเจาะ ปลูกเส้นคิ้วในรากของคิ้วจริงๆ ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นกับความต้องการ และรูปร่างของแต่ละบุคคลมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ควรปฏิบัติในสถานที่ที่มีความปลอดภัย มีแพทย์เฉพาะทางด้านนี้ดูแลค่ะ

การสักคิ้วคืออะไร

การสักคิ้วคืออะไร?

การสักคิ้วเป็นวิธีการสักสีหมึกลงบนผิวหนังบริเวณคิ้ว เพื่อเพิ่มความสวยงาม  และแก้ไขรูปทรงคิ้วที่ไม่สมมาตร หรือคิ้วที่บางลงตามวัย การสักคิ้วสามารถทำได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว การสักคิ้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

  • การสักคิ้วลายเส้น เป็นการสักสีหมึกลงบนผิวหนังบริเวณคิ้วเป็นเส้น ๆ คล้ายกับขนคิ้วจริง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติ
  • การสักคิ้วแบบทึบ เป็นการสักสีหมึกลงบนผิวหนังบริเวณคิ้วแบบเต็มพื้นที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้คิ้วดูคมชัดและโดดเด่น

นอกเหนือจากการแบ่งประเภทตามรูปแบบการสักแล้ว การสักคิ้วยังสามารถแบ่งประเภทตามเทคนิคการสักได้อีกด้วย ในปัจจุบันมีเทคนิคการสักคิ้วที่ได้รับความนิยมอยู่หลายเทคนิค เช่น

  • การสักคิ้ว 3 มิติ เป็นเทคนิคการสักคิ้วแบบลายเส้นที่มีความสมจริงสูง มีลักษณะเหมือนขนคิ้วจริง
  • การสักคิ้ว 6 มิติ เป็นเทคนิคการสักคิ้วแบบลายเส้นที่มีความสมจริงสูงยิ่งขึ้นไปอีก มีลักษณะเหมือนขนคิ้วจริงที่ผ่านการเรียงตัวแบบธรรมชาติ
  • การสักคิ้วสไลด์ เป็นเทคนิคการสักคิ้วแบบทึบ โดยใช้สีหมึกที่เข้มกว่าสีผิวจริง เพื่อเติมเต็มบริเวณคิ้วที่บางลง
ข้อดีและข้อเสียของการสักคิ้ว

ข้อดีและข้อเสียของการสักคิ้ว

การสักคิ้วเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คิ้วดูหนาขึ้น คมชัดขึ้น และแก้ไขข้อบกพร่องของคิ้วได้ เช่น คิ้วบาง คิ้วแหว่ง คิ้วสั้น หรือหางคิ้วตก โดยทั่วไปแล้ว การสักคิ้วมีความปลอดภัยสูง แต่อาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์บางประการได้ เช่น อาการคัน บวมแดง อักเสบ หรือติดเชื้อ นอกจากนี้ การสักคิ้วยังเป็นการสักถาวร ซึ่งอาจทำให้แก้ไขทรงคิ้วได้ยากหากไม่พอใจ

ข้อดีของการสักคิ้ว

  • ช่วยให้คิ้วดูหนาขึ้น คมชัดขึ้น
  • สามารถแก้ไขข้อบกพร่องของคิ้วได้
  • ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้า
  • สามารถอยู่ได้นานหลายปี

ข้อเสียของการสักคิ้ว

  • อาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์บางประการ เช่น อาการคัน บวมแดง อักเสบ หรือติดเชื้อ
  • เป็นการทำถาวร ซึ่งอาจทำให้แก้ไขทรงคิ้วได้ยากหากไม่พอใจ
  • อาจเกิดรอยสักที่ไม่สม่ำเสมอ หรือไม่เป็นธรรมชาติได้หากช่างสักไม่ชำนาญ
  • เมื่อเวลาผ่านไปสีคิ้วอาจจางลง หรือเปลี่ยนสีได้

การปลูกคิ้วคืออะไร?

การปลูกคิ้วคือการย้ายรากผมจากบริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่ง มักใช้เพื่อเติมเต็มคิ้วที่บาง หรือขาดหายไป หัตถการนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับปริมาณรากผมที่ต้องการย้าย วิธีการทั่วไปคือการดึงรากผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะ หรือหน้าผาก จากนั้นจึงย้ายไปปลูกที่บริเวณคิ้ว หัตถการนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณรากผมที่ต้องการย้าย โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ ในระหว่างนี้ แพทย์อาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำ เลี่ยงแสงแดดโดยตรง ผลลัพธ์ของการปลูกคิ้วจะอยู่ถาวร 

การปลูกคิ้วเป็นการผ่าตัดที่ย้ายเส้นผมจากบริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วเส้นผมจะถูกย้ายจากบริเวณด้านหลังศีรษะไปยังบริเวณคิ้ว การปลูกคิ้วมีหลายเทคนิค แต่เทคนิคที่นิยมที่สุดคือเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation) และเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)

  1. เทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นวิธีการปลูกคิ้วที่ใช้เครื่องมือผ่าตัดเพื่อตัดเนื้อเยื่อที่มีรากผมจากบริเวณหนึ่ง เช่น ท้ายทอย หรือต้นขา แล้วนำมาปลูกที่บริเวณคิ้ว สามารถทำการปลูกรากขนคิ้วได้เป็นจำนวนมากในคราวเดียว และผลลัพธ์ที่ได้จะมีความสม่ำเสมอ
  2. เทคนิค FUE การปลูกคิ้วด้วยเทคนิค FUE นั้นแพทย์จะทำการเจาะเอารากผมที่แข็งแรงจากบริเวณท้ายทอยหรือบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย จากนั้นจึงนำรากผมมาปลูกลงในบริเวณคิ้วที่ต้องการ โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กเพื่อทำการเจาะรูที่บริเวณคิ้วแล้วจึงค่อย ๆ ใส่รากผมลงไป

ข้อดีและข้อเสียของการปลูกคิ้ว

การปลูกคิ้วเป็นการผ่าตัดเพื่อย้ายรากผมจากบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น ท้ายทอย หรือหน้าผาก มาปลูกที่คิ้ว โดยรากผมที่นำมาปลูกจะคงอยู่ถาวร ไม่หลุดร่วงเหมือนการสักคิ้ว หรือเขียนคิ้ว

ข้อดีของการปลูกคิ้ว

  • ได้ผลลัพธ์ที่ถาวร
  • ขนคิ้วที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ มีมิติ
  • สามารถแก้ปัญหาคิ้วบาง คิ้วแหว่ง หรือคิ้วโล้นได้
  • ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ และสวยงามมากขึ้น

ข้อเสียของการปลูกคิ้ว

  • ค่าใช้จ่ายสูง กว่าการสักคิ้ว
  • การผ่าตัดศัลยกรรมปลูกคิ้ว ใช้เวลานาน
  • อาจมีอาการบวม แดง หรือระคายเคืองบริเวณที่ผ่าตัด
  • อาจเกิดรอยแผลเป็นได้ แต่โดยปกติแล้วจะจางลงตามเวลา
Read More

แก้ปัญหาผมร่วงถาวร ด้วยศัลยกรรมปลูกผม

แก้ปัญหา ผมร่วงถาวร

สาว ๆ หลายคนคงพบกับปัญหาเหล่านี้ ผมร่วง เต็มพื้นห้อง ผมเข้าติดท่อระบายน้ำ เสยผมแล้วผมร่วงติดมือ แถมยังโดนทักว่าผมบาง หรือหัวล้าน ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้โดยการศัลยกรรมปลูกผม 

บทความนี้จะพาผู้ที่มีปัญหาผมต่าง ๆ มารู้จักกับทางออกที่จะมาช่วยเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้งค่ะ  สำหรับผู้ที่ปัญหาผมบางมาก ผมร่วงเยอะ ศีรษะล้าน รวมไปถึงศีรษะเถิก การปลูกผมจะช่วยให้เส้นผมกลับมาดักดำได้อย่างถาวร

ศัลยกรรมปลูกผมคืออะไร?

การปลูกผมนับเป็นศัลยกรมมอย่างหนึ่ง เนื่องจากเป็นการผ่าตัดย้ายรากผม โดยวิธีการย้ายเส้นผมจากพื้นที่ที่เจริญเติบโตได้ดี ไปปลูกใหม่ในพื้นที่ที่มีปัญหาของผม (พื้นที่ที่เกิดการร่วงของเส้นผม) เพื่อให้ผมเติบโตกลับมาอย่างสวยงามในพื้นที่ที่ต้องการ พร้อมช่วยลด ผมร่วง และเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน การปลูกผมมีหลายวิธี แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเทคนิคแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) และเทคนิคแบบ FUE (Follicular Unit Extraction)

การปลูกผมเป็นวิธีแก้ปัญหาผู้ที่มีผมร่วง ผู้ที่มีผมบางมากสามารถช่วยให้กลับมามีผมที่หนา และดกดำมากขึ้น การปลูกผมสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจ และบุคลิกภาพให้กับคนไข้ได้ค่ะ

สาเหตุที่ต้องปลูกผม

ปัญหาผมขาดหลุดร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก เป็นปัญหาที่พบบ่อยในปัจจุบัน ซึ่งสามารถเกิดได้ขึ้นกับทุกเพศทุกวัย และเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้แก่

  • พันธุกรรม พันธุกรรมเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของผมร่วง ผู้ชายส่วนใหญ่ที่มีปัญหาผมร่วงจะมีอาการผมร่วงแบบด่าง ซึ่งทำให้ผมบางบริเวณด้านบนของศีรษะ
  • ฮอร์โมน ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถกระตุ้นผมร่วงได้ ฮอร์โมนนี้ทำให้เส้นผมบางลง และเปราะบางมากขึ้นค่ะ
  • ปัจจัยแวดล้อม ปัจจัยแวดล้อมบางประการ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้ยาบางชนิด ก็สามารถกระตุ้นผมร่วงได้เช่นกัน
  • โรค โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์และโรคโลหิตจาง ก็สามารถกระตุ้นผมร่วงได้เช่นกัน
  • การใช้สารเคมี หรือสีสังเคราะห์ ผู้ที่ชอบทำสีผม ดัดผม จัดทรงผมต่าง ๆ ล้วนเป็นการใช้สารเคมีกับเส้นผม ซึ่งสารเคมีบางชนิดยังสามารถระคายเคืองหนังศีรษะ และทำให้เกิดอาการคันได้ค่ะ นอกจากนี้ การใช้สารเคมีกับเส้นผมบ่อยครั้งอาจทำให้ผมเปราะ แถมยังมีโอกาสหลุดร่วงมากกว่าปกติด้วยค่ะ

การปลูกผมเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสำหรับปัญหาผมร่วง อย่างไรก็ตาม หัตถการนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์ของอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และเนื่องจากเป็นการศัลยกรรมอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น การติดเชื้อ รอยแผลเป็น และอาการบวม

หากกำลังพิจารณาการปลูกผม สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ และความเสี่ยงของการผ่าตัด

เทคนิคที่ใช้ในการปลูกผม

เทคนิคนี้เป็นการผ่าตัดที่ย้ายรากผมจากบริเวณหนึ่งไปยังบริเวณอื่น เพื่อปกปิดพื้นที่ที่ล้าน หรือบาง ซึ่งเทคนิคที่ใช้ในการปลูกผมมีหลายวิธี แต่ที่นิยมมากที่สุดคือ 2 วิธี ได้แก่

  • การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation)

เทคนิคแบบ FUT เป็นการย้ายรากผมโดยการตัดแถบหนังศีรษะจากบริเวณด้านหลังศีรษะ จากนั้นจึงนำรากผมออกมาทีละกอ แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ล้าน หรือบาง เทคนิคแบบ FUT ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ผลลัพธ์ของเทคนิคแบบ FUT ค่อนข้างดี แต่แผลผ่าตัดอาจเห็นรอยแผลเป็นได้

  • การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction)

เทคนิคแบบ FUE เป็นการย้ายรากผมโดยการใช้เครื่องมือเจาะรูเล็ก ๆ บนหนังศีรษะ จากนั้นจึงนำรากผมออกมาทีละกอ แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ล้าน หรือบาง เทคนิคแบบ FUE ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ผลลัพธ์ของเทคนิคแบบ FUE ค่อนข้างดี และไม่มีแผลผ่าตัดให้เห็น

การปลูกผมมีความซับซ้อน มีภาวะเสี่ยงเช่นเดียวกับการผ่าตัดทางการแพทย์อื่น ๆ การเลือกเทคนิคการที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการ และสภาพผมของแต่ละบุคคล การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจทำการศัลยกรรมปลูกผม

Read More

“หัวล้าน” แบบไทยๆแก้ได้ด้วยการปลูกผม

ปัญหา “หัวล้าน” เป็นเรื่องใหญ่สำหคับใครหลายคนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายค่ะ ดังนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจปลูกผม ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ปัญหาด้านเส้นผม ไม่ว่าจะเป็น ผมบาง ผมร่วงเป็นหย่อมๆ  หัวล้านก่อนวัย หัวล้านจากกรรมพันธุ์ ค่ะ

ซึ่งในเบื้องต้นเราต้องสังเกตุตัวเองก่อนว่าปัญหาผมของเรานั้นมีมากน้อยแค่ไหน เพราะในความจริงแล้วลักษณะหัวล้านของเรานั้นมีหลายรูปแบบเลยนะคะ หากจะพูดถึงลักษณะหัวล้านจากกรรมพันธุ์แบบไทยๆ ก็มีอยู่หลากหลายเช่นกันนะคะ วันนี้จะเล่าให้ฟังนะคะว่ารูปแบบความล้านของศรีษะคนไทยโบราณมีแบบใดบ้าง

  • ทุ่งหมาหลง  
  • ดงช้างข้าม
  • ง่ามเทโพ    
  • ชะโดตีแปลง
  • แร้งกระพือปีก. 
  • ฉีกขวานฟาด
  • ราชคลึงเครา

แต่ไม่ว่าศรีษะเราจะล้านแบบไหน ก่อนทำการปลูกผมถาวรทุกครั้ง แพทย์ต้องประเมินสัดส่วนของใบหน้าโดยการวัดกราฟต์แบบเคสต่อเคส หลังจากนั้นแพทย์ก็จะตกลงเรื่องจำนวนกราฟต์ที่จะปลูกผมรวมถึงความสูงต่ำของแนวผมคนไข้ค่ะ

Read More

พัฒนาการของเส้นผม…

หลังจากปลูกผมเสร็จ รากผมที่ถูกปลูกยังอ่อนแออยู่และยังไม่ฝังตัวดี ดังนั้นคนไข้ควรปฏิบัติตัวตามแพทย์คำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งวันนี้จะมาเล่าให้ฟังนะคะว่าพัฒนาการเส้นผมที่เราปลูกไปนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

  • ในช่วง 2 สัปดาห์หลังจากการปลูกผม 

แผลที่ตกสะเก็ดจะเริ่มลอกและหลุดออกมา ผมที่ปลูกอาจหลุดออกมาด้วยซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติ รากผมจะฝังตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  • ช่วง 3 เดือนหลังจากการปลูกผม 

ผมใหม่จะเริ่มขึ้นมาใหม่ในตำแหน่งที่ปลูก อาจจะไม่ได้ขึ้นทั่วๆ ในตอนแรกซึ่งเป็นเรื่องปกติ

  • ช่วง 6 เดือนหลังจากการปลูกผม 

เราจะเริ่มเห็นครึ่งหนึ่งของผมลัพธ์ ผมอาจจะขึ้นมาหมดแล้วแต่ยังเป็นเส้นที่บางอยู่

  • ช่วง 12 ถึง 18 เดือนหลังจากการปลูกผม 

นี่คือเวลาที่เราจะเห็นผลลัพธ์สูงสุด ผมปลูกที่เคยบางๆ จะหนา

Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save