สาเหตุหลักของรังแค ปัญหากวนใจที่แก้ได้

รังแค เป็นปัญหาหนังศีรษะที่พบได้บ่อย ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง รังแคอาจดูเหมือนเรื่องเล็ก ๆ แต่สำหรับหลายคนกลับสร้างความรำคาญและทำให้เสียความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมที่มีเศษขาว ๆ ติดอยู่ หรือเกล็ดรังแคที่ร่วงลงบนเสื้อผ้า หลายคนเข้าใจว่ารังแคเกิดจากการสระผมไม่สะอาดเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้ว รังแคมีหลายสาเหตุทั้งจากภายในร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบตัว บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่า รังแคเกิดขึ้นได้อย่างไร และปัจจัยใดที่ทำให้รังแคแย่ลง
รังแคคืออะไร?
รังแค คือ เซลล์ผิวหนังบนหนังศีรษะที่หลุดลอกออกมาเร็วกว่าปกติ โดยทั่วไปผิวหนังของเราจะมีการผลัดเซลล์ทุก 28 วัน แต่ในคนที่มีรังแค หนังศีรษะจะผลัดเซลล์เร็วขึ้นเหลือเพียง 7–14 วัน ทำให้เกิดการสะสมและหลุดออกมาเป็นเกล็ดสีขาวหรือสีเหลือง มักจะมาพร้อมกับอาการคัน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากและส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก รังแคไม่ได้เป็นภาวะร้ายแรงทางการแพทย์ แต่สามารถทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและเกิดความรำคาญใจได้ สาเหตุของการเกิดรังแคมีหลายปัจจัย ทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย ซึ่งการทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถจัดการและรักษารังแคได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรังแค
- การเจริญเติบโตของเชื้อรา Malassezia globosa
นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรังแค โดยเชื้อราชนิดนี้เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่บนหนังศีรษะของทุกคนตามธรรมชาติ เชื้อรา Malassezia globosa จะกินน้ำมันจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะเป็นอาหาร และเมื่อเชื้อราเหล่านี้ย่อยสลายน้ำมัน จะผลิตกรดโอเลอิก (Oleic acid) ออกมา ซึ่งผู้ที่มีความไวต่อกรดชนิดนี้จะเกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่เร็วเกินไป จนทำให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วสะสมและหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นหรือเกล็ดที่เราเรียกว่ารังแคนั่นเอง
- ภาวะหนังศีรษะแห้ง
หนังศีรษะที่ขาดความชุ่มชื้นก็สามารถทำให้เกิดรังแคได้เช่นกัน รังแคจากหนังศีรษะแห้งมักจะมีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ สีขาว และรู้สึกคันได้ง่าย โดยเกล็ดรังแคมักจะร่วงลงบนไหล่ได้ง่าย สาเหตุของหนังศีรษะแห้งอาจเกิดจากการสระผมบ่อยเกินไป การใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนในการสระผม หรือการอยู่ในสภาพอากาศที่แห้งและเย็นเป็นเวลานาน
- ภาวะหนังศีรษะมัน (Seborrheic Dermatitis)
ในทางตรงกันข้ามกับหนังศีรษะแห้ง หนังศีรษะที่มันเกินไปก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของรังแค โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะ Seborrheic Dermatitis หรือโรคผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมัน ภาวะนี้เกิดจากการที่ต่อมไขมันบนหนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา Malassezia globosa ทำให้เกิดการอักเสบและลอกเป็นแผ่นหนาๆ มีสีเหลืองหรือขาวขุ่น และมักจะมีอาการคันร่วมด้วย
ปัจจัยอื่นๆ ที่กระตุ้นให้เกิดรังแค
นอกจากสาเหตุหลักข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดหรือทำให้อาการรังแครุนแรงขึ้นได้ ได้แก่
- การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ไม่เหมาะสม สารเคมีบางชนิดในแชมพู สเปรย์ หรือเจลจัดแต่งทรงผมอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้หนังศีรษะลอกได้
- การสระผมไม่ถูกวิธี การสระผมบ่อยเกินไปจะทำให้น้ำมันตามธรรมชาติบนหนังศีรษะหมดไป ทำให้หนังศีรษะแห้ง ในขณะที่การสระผมไม่บ่อยพอจะทำให้เกิดการสะสมของน้ำมันและสิ่งสกปรก ซึ่งเป็นอาหารของเชื้อรา
- ความเครียด ความเครียดส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและอาจกระตุ้นให้เกิดปัญหาสุขภาพผิวหนัง รวมถึงรังแค
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อการผลิตน้ำมันบนหนังศีรษะ ทำให้เกิดรังแคได้ง่ายขึ้น
- โรคผิวหนังบางชนิด โรคผิวหนังบางอย่าง เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) หรือกลากเกลื้อน (Eczema) ก็สามารถทำให้เกิดอาการลอกและเป็นรังแคได้

วิธีป้องกันรังแค
หากคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นรังแค การป้องกันเริ่มต้นด้วยการควบคุมโรค Malassezia วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อราสัปดาห์ละหนึ่งหรือสองครั้ง แม้ว่าจะไม่พบรังแคเลยก็ตาม คุณสามารถเลือกใช้ซิงค์ไพริไทโอน ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่ปลอดภัยต่อการใช้เป็นประจำและไม่ทำลายเส้นผม โดยขั้นตอนการปกป้องหนังศีรษะจากความเสียหายและการระคายเคืองมีดังนี้
- ใช้น้ำอุ่นสระผมแทนน้ำร้อนจัด
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนให้น้อยที่สุด
- สวมหมวกเมื่อคุณออกไปกลางแดด
- ใช้แชมพูหรือมาส์กผมที่ให้ความชุ่มชื้นเมื่ออากาศแห้ง
- เปิดเครื่องเพิ่มความชื้นในช่วงเดือนที่มีอากาศหนาวเย็นและแห้ง
- ใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสม Ketoconazole, Zinc Pyrithione หรือ Selenium Sulfide
การกำจัดรังแคด้วยแชมพู
รังแคสามารถรักษาได้ด้วยแชมพูยาและครีมบำรุงหนังศีรษะ ครีมเหล่านี้ช่วยลดปริมาณเชื้อ Malassezia บนผิวหนังและช่วยฟื้นฟูชั้นผิว ซึ่งเป็นแชมพูยี่ห้อใดก็ได้ที่มีวางจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยาและร้านขายของชำ ซึ่งจะต้องเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมดังนี้
- ซีลีเนียมซัลไฟด์ (เช่นแชมพู Selsun Blue และ Head and Shoulders Clinical Strength )
- ซิงค์ไพริไทโอน (เช่น แชมพูเฮดแอนด์โชว์เดอร์)
- คีโตโคนาโซล (เช่นแชมพูไนโซรัล)
- แชมพูที่มีส่วนผสมของทาร์ (เช่น แชมพู Neutrogena T/Gel)
- กรดซาลิไซลิก (เช่น แชมพู Neutrogena T/Sal)
ควรไปพบแพทย์เกี่ยวกับรังแคได้ตอนไหน?
คุณสามารถรักษาโรครังแคได้สำเร็จที่บ้านด้วยผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากร้านขายยา แต่หากอาการไม่ดีขึ้น คุณอาจต้องไปพบแพทย์ เขาสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาการของคุณไม่ได้เกิดจากโรคอื่น ๆ เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคกลาก อาการเหล่านี้จะไม่ดีขึ้นหากไม่ได้รับการรักษาอย่างตรงจุด
รังแคเป็นปัญหาที่เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเจริญเติบโตของเชื้อรา การขาดความชุ่มชื้น หรือภาวะหนังศีรษะมัน นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการได้ การทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้คุณสามารถเลือกวิธีการรักษาและดูแลตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผมและหนังศีรษะของคุณกลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพดีได้อีกครั้ง